ไม่อยากเป็น “สิวสเตียรอยด์” ฟังทางนี้!!

ไม่อยากเป็น “สิวสเตียรอยด์” ฟังทางนี้!! 😭😭
ปัญหา สิวสเตียรอยด์ พบได้บ่อยค่ะ นั่นเพราะว่า มันจะเห็นผลแบบว่าแรกๆ ก็ดูใสดี แต่น่ากลัวมากกกก ในระยะยาว ยาสเตียรอยด์ จัดเป็นสารห้ามใช้ตาม พรบ.เครื่องสำอาง ครีม หรือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางตัวอยากให้ลูกค้าติดใจ ก็จะแอบผสมลงไปทั้งๆ ที่รู้ว่าว่ามันอันตราย ซึ่งหลายคนก็ติดกับ สเตียรอยด์ที่อยู่ในเครื่องสำอางไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีมรักษาสิว ครีมหน้าใส หรือครีมที่ช่วยให้หน้าขาวได้อย่างรวดเร็ว หากเป็นครีมที่ไม่มีมาตรฐาน ราคาถูก มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด แน่นอนว่าจะะพบสารสเตียรอยด์ในปริมาณสูง การใส่สารชนิดเข้าไปเป็นส่วนประกอบหลัก นั่นก็เป็นเพราะคุณสมบัติที่ช่วยบำบัดอาการให้สิวที่เกิดบนใบหน้าหายไปอย่างรวดเร็ว จนเราคิดว่านั่นเป็นครีมที่ดี อัศจรรย์ จนซื้อใช้อย่างต่อเนื่องซึ่งหลายคนก็ติดกับ แต่ทั้งนี้ระดับความรุนแรงก็จะแตกต่างกันไป
ระดับการดูดซึมของสเตียรอยด์จะขึ้นอยู่ บริเวณผิวที่ทาหรือสัมผัส ความเข้มข้นของสเตียรอยด์และลักษณะผิว อย่างเช่น บริเวณที่ผิวบอบบางอย่างใบหน้า เปลือกตา รอบปาก จะดูดซึมสเตียรอยด์ได้มากกว่าบริเวณฝ่าเท้าที่หนากว่า หรือ อย่างในคนที่มีผิวอ่อนแอ บอบบาง ก็จะดูดซึมสเตียรอยด์ได้สูงกว่าคนผิวปกติ เกือบ 10 เท่ากันเลยทีเดียว
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าครีมที่ใช้มีสเตียรอยด์ผสมอยู่ (จะได้เลิกใช้ก่อนที่จะสายเกินไป) Le Felix | เลอ ฟีลิกซ์ มีวิธีสังเกตมาฝากค่ะ
1. สิวหาย หน้าดี หน้าใสเร็วมากกกกก
2. หน้าจะดูเงาๆ ใสๆ (แต่ใสจนเห็นเส้นเลือดเลย)
3. ขนตรงที่ทาจะขาวขึ้นผิดปกติ
4. พวกผด ผิวลอกแดง จะดีขึ้นใน 3 วัน
5. ผิวจะดูเนียนนุ่ม ราวกับผิวเด็ก
ฟังดูแล้วอเมซิ่งใช่มั๊ยคะ ว่าเหมือนมันจะดีมากๆ เลย ผิวใส หน้านุ่ม สิวหาย ไวเวอร์ขนาดนี้ ใครจะไม่อยากได้ แต่หากผิวติดสเตียรอยด์ หรือเป็นสิวสเดียรอยด์ ผลที่ตามมาจะเป็นแบบนี้ค่ะ
1. ถ้าเป็นสิว จะมีลักษณะเป็นปื้น เยอะมากๆ ปะทุแทบทุกรูขุมขนกันเลยทีเดียว ลักษณะสิวจะคล้ายๆกัน มีตุ่มหนอง ตุ่มแดง บนผิวหน้าหลังจากใช้ครีม (ต่างจากสิวที่เกิดจากฮอร์โมนเพราะ ถ้าเป็นสิวฮอร์โมนลักษณะสิวจะแตกต่างกันไปตามระยะสิว เช่น บางเม็ดก็อักเสบ บางเม็ดเป็นสิวหัวดำ ไม่เป็นปื้นๆ)
2. นอกจากนี้ ยาสเตียรอยด์ ทำให้เซลล์รูขุมขนไวต่อการกระตุ้น มีปริมาณกรดไขมันมากขึ้น แบคทีเรีย P.acne ในรูขุมขนเจริญเติบโตเร็ว เกิดการสร้างคอมีโดนที่มากผิดปกติ กลายเป็นสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบเม็ดใหญ่ลุกลามเกือบทุกรูขุมขน อีกทั้งภูมิคุ้มกันของผิวถูกสเตียรอยด์กดไว้มาอย่างยาวนาว ทำให้ผิวอ่อนแอ
3. ยาสเตียรอยด์มีผลทำให้โครงสร้างผิวหนังชั้นหนังแท้หลวมบาง เพราะคอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลาย ผิวจึงเหี่ยวและยุบตัว ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าก็บางลงเพราะการสร้างเซลล์ใหม่หยุดชะงักหรือช้าลง ทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย ใช้อะไรก็แพ้ เวลาเป็นสิวก็รุนแรง แผลหายช้ากว่าปกติเพราะการสร้างเนื้อเยื่อใหม่เส้นเลือดใหม่ผิดปกติ
4. ผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น ผิวแตกลาย (จากสเตอรอยด์จะมีลักษณะเฉพาะคือมีสีแดง) ในบางคนอาจรู้สึกเจ็บบริเวณที่แตกลายด้วย สเตียรอยด์มีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว เกิดเป็นปื้นแดง (ฝ้าเส้นเลือด) หน้าใสจนมองเห็นเส้นเลือด ผิวซีด เป็นด่างขาว
ฟังอันตรายแล้วรู้สึกอยากสวยไว ด้วยสเตียรอยด์อยู่มั๊ยคะ Le Felix เคยเจอน้องๆวัยรุ่นหลายคนบอกว่า “ ไม่เป็นไรค่ะพี่ ขอสวยไวๆ แป๊บนึง ใช้นิดเดียว ให้หน้าใสทันใจก่อนค่ะ เดี๋ยวก็เลิกใช้ สิวไม่เห่อหรอกค่ะ” ฟังแล้วเราก็ขอช็อคแป๊บนึง ทำไมเราถึงช็อค เพราะการแสดงออกของอาการผิวติดสเตอรอยด์ หรือ สิวสเตอรอยด์ มันจะปรากฏแบบนี้ค่ะ
1. ใช้ครีมสเตียรอยด์ไปสักระยะแล้วเกิดเป็นสิวสเตอรอยด์ นั่นถือว่าคุณยังโชคดีอยู่ค่ะ เพราะถ้าเกิดเร็ว รู้เร็ว หยุดใช้แล้ว โอกาสหายเร็วก็มากขึ้น แต่...สำหรับบางคนอาจจะเป็นแบบกรณีที่ 2 ค่ะ
2. คือ หน้าใสมากมาย ไม่เป็นอะไรเลย 6 เดือน 1 ปี แต่พอหยุดใช้เท่านั้นแหละ (ไปต่างจังหวัดอ่ะ ลืมเอาครีมไป หรืออยากลองยี่ห้อใหม่ ๆบ้าง) อาการโผล่ค่ะ ผิวแห้งบ้าง มันบ้าง แพ้ง่ายมาก คันหน้า แสบหน้าง่าย สิวผด บางคนรู้สึกแสบกระทั่งเหงื่อตัวเอง แต่พอกลับไปใช้ครีมตัวเดิมอาการก็ดีขึ้น เปลี่ยนครีมไม่ได้ นั่นผิวติดสเตอรอยด์เข้าแล้ว
เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าเราจะเป็นแบบอาการที่ 1 หรือ 2 ค่ะ ถ้าเป็นแบบที่ 2 นี่ค่อนข้างยากเลย เพราะสเตียรอยด์สะสมมานาน แล้วถ้ามารู้ว่าหลวมตัวใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ไปแล้วล่ะ จะทำยังไงดี บนความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีค่ะ เพราะคำตอบก็คือ “ไม่ต้องทำอะไร” สเตียรอยด์ที่ตกค้างตามผิวหนังจะถูกชะล้างจากการล้างหน้าไปบางส่วน และหลงเหลืออยู่บนผิวบางส่วน (อาจจะเข้ากระแสเลือดบางส่วน) หากเราไม่ใช้เพิ่ม ไม่สะสมมันเพิ่ม มันก็จะค่อยๆ หมดไปจากการที่เราทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำ แล้วผิวก็จะมีการผลัดเซลล์ใหม่ ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติ ส่วนถ้าหากไปอยู่ในกระแสเลือดก็จะค่อยๆหมดฤทธิ์ไปเองจากระบบเมตาบอลิซึมและการขับถ่ายยาของร่างกาย เพียงแต่ว่าระยะเวลาที่สเตอรรอยด์จะหมดไปนั้นเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง (แต่สำหรับคนที่เป็นสิวสเตอรอยด์จะรู้สึกว่า ช้า) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ตกค้างอยู่นั่นเองค่ะ หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือ ครีมที่เร่งผิวขาว หรือหากหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าด้วยก็จะดีค่ะ (แต่ถ้าทำใจในข้อนี้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร)
หากใครรู้สึกว่าวิธีธรรมชาติมันจะนานเกินไป เพื่อความสบายใจก็แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางรักษาต่อไปค่ะ และระหว่างที่รอให้สิวสเตียรอยด์หรืออาการต่างๆ ดีขึ้น แนะนำว่า อย่าไปแคะ แกะ เกา เพิ่มเติมนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นจะตามมาด้วยปัญหารอยดำ รอยแดง ผิวถลอก ติดเชื้อง่ายขึ้นไปอีก
Le Felix หวังว่า บทความที่เรานำมาฝากจะเป็นประโยชน์นะคะ เพราะอย่างน้อยก็คงจะช่วยสะกิดต่อมน้องๆ โดยเฉพาะวัยรุ่น หรือ สาวๆ ที่กำลังอยากหน้าใสไว หน้าขาวไว จนลืมคิดถึงผลเสียระยะยาว ตอนซื้อครีมที่มีว่าอาจจะไม่แพง และเห็นผลดีกว่าครีมที่มีราคาสูงกว่า แต่ตอนรักษาเมื่อเกิดอาการข้างเคียงตามมาก Le Felix บอกเลยว่าแพงกว่าแน่นอนค่ะ ซึ่งหนึ่งในความแพงนั้นก็คือ การขาดความมั่นใจในตัวเองนี่แหละ
#LeFelix #เลอฟีลิกซ์ #บทความ #สิวเห่อ #สิวสเตียรอยด์ #หน้าขาวใส
Le Felix "Because everyone deserves to be Beautiful"
เลอ ฟีลิกซ์ "เพราะความสวย คู่ควรกับทุกคน"
FB: www.facebook.com/LeFelix.official
www.le-felix.com
IG: le_felix_official
http://le-felix.blogspot.com/
Line: @le-felix มี @ ด้วยนะ https://line.me/R/ti/p/%40le-felix

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม